ปัจจุบัน TikTok ได้รับความนิยมในไทยเป็นอย่างมาก จุดเด่นของ TikTok คือการสร้างวิดีโอความยาวสั้น ๆ ทำให้เข้าถึงผู้คนได้ง่ายกว่า และคอนเทนต์ใน TikTok ไม่ได้มีแค่คลิปเพื่อความบันเทิง แต่เป็นแหล่งรวมคอนเทนต์ เช่น ข่าวสารบ้านเมือง ข่าวกอสซิป (Gossip) อัปเดตวงการดนตรี หรือฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น การไลฟ์สด ดังนั้น การตลาดออนไลน์ TikTok จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องศึกษาไว้ เพราะจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตและมีคนรู้จักให้วงกว้าง วันนี้เราจึงพามาทำความรู้จักกับการตลาดบนแพลตฟอร์ม TikTok ที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้กันค่ะ 
 

การตลาดบน TikTok คืออะไร? 

การตลาดบน TikTok คือการใช้แพลตฟอร์ม TikTok เพื่อส่งเสริมการขาย ทั้งการสร้างและแชร์เนื้อหาบน TikTok เพื่อให้แบรนด์เข้าถึงและมีส่วนร่วมกับผู้ชมในวงกว้าง ดึงดูดลูกค้าใหม่ และโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนได้ การตลาดของ TikTok มักจะมีการใช้แฮชแท็ก (#) การทำ Challenges และการร่วมมือกับ Influencers หรือ Creators เพื่อเพิ่มการมองเห็นและการมีส่วนร่วมกับแบรนด์หรือบุคคล ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

• การใช้แผ่นเสียงที่กำลังเป็นกระแส 

ในกระแสวิดีโอขนาดสั้นต้องมีเนื้อหาที่กระชับ และเข้าใจได้ง่าย โดยต้องสามารถดึงดูดผู้ชมได้ภายใน 3 วิแรก ซึ่งการเลือกเพลงที่เป็นกระแส จะช่วยสร้างความประทับใจแรก  ให้กับคอนเทนต์นั้น ๆ ไม่ว่าเนื้อหาในคอนเทนต์มีลักษณะหรือรูปไหน และถึงแม้การใช้กลยุทธ์นี้ไม่ได้ช่วยเจาะกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน แต่จะช่วยในเรื่องของการรับรู้ถึงแบรนด์ หรือสินค้า (Awareness) 

• การใช้ # (แฮชแท็ก) 

การใช้ แฮชแท็ก ในคอนเทนต์ มีประโยชน์ในการเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ซึ่งการติดตามข่าวสารด้วยการใช้ แฮชแท็กบน X (Twitter) เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก โดย TikTok ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพื่อตามดูประเด็นที่กำลังเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ สำหรับสายครีเอเตอร์ (Creator) สามารถนำแฮชแท็กเหล่านี้ มาเป็นตัวช่วยในการออกแบบวิดีโอ แต่ข้อควรระวังในการเลือกแฮชแท็ก ควรเลือกแฮชแท็กที่สามารถเล่าเรื่องในเชิงบวกและไม่ควรเลือกแฮชแท็กที่มีเนื้อหาละเอียดอ่อน  เพราะอาจทำภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูไม่น่าเชื่อถือ ที่สำคัญอย่าใช้แฮชแท็กมากเกินไป เนื่องจาก Bot ของ TikTok อาจมองว่าวิดีโอนั้นเป็นสแปม

• การใช้ Influencer, คนดังมาร่วมทำคอนเทนต์

เนื่องจาก Influencer หรือที่เรียกว่า TikToker มีฐานชื่อเสียงในโลกออนไลน์ โดยใช้อัตลักษณ์ที่ผู้คนจดจำจาก Influencer ทั้งบุคลิกภาพ และความน่าเชื่อถือ หากแบรนด์นำมาร่วมกับการโปรโมตสินค้า อาจสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายของผู้ติดตาม Influencer ได้ ซึ่งสิ่งสำคัญของกลยุทธ์นี้ จะต้องไม่นำเสนอเนื้อหาที่ยัดเยียดผู้รับสารจนมากเกินไป และต้องมีความเป็นธรรมชาติในการนำเสนอคลิป 

• ทำคอนเทนต์แบบ How to 

อีกหนึ่งเคล็ดลับของ TikTok คือการกดไลค์หรือบันทึกโพสต์ เพื่อเก็บไว้ดูย้อนหลัง ซึ่งการทำคอนเทนต์ How to หรือ Q&A ซึ่งช่วยให้ผู้ที่ต้องการหาคำตอบในประเด็นที่สงสัย และสามารถหาคำตอบได้เพียงไม่ถึงนาที ดังนั้น การทำคลิปควรใช้ Keyword ที่สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้คนอยากรู้ เช่น หากทำธุรกิจเกี่ยวกับขายผลไม้ อาจลองทำคอนเทนต์วิดีโอแชร์ทริคการเก็บผลไม้ให้อยู่ได้นาน หรือการคำนวณรายได้ของผลผลิต 

• การทำ Challenges ให้ผู้คนทำตาม 

การเชื่อมช่องว่างระหว่างแบรนด์กับลูกค้าให้เกิดความใกล้ชิด เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมาย นอกเหนือจากเรื่องของธุรกิจ ซึ่งการทำ Challenges ก็จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายได้ร่วมแคมเปญ อีกทั้งคอนเทนต์สามารถสร้างการรับรู้ของแบรนด์ ผ่านการบอกต่อกัน หรือแชร์บนโลกออนไลน์

• ลงคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ

พฤติกรรมผู้ใช้งาน TikTok คือการเลื่อนวิดีโอไปเรื่อย ๆ ดังนั้น จึงควรลงคอนเทนต์บน TikTok อย่างสม่ำเสมอ เช่น การวางแผนการลงคลิป ว่าจะลงกี่คลิปต่อสัปดาห์ และควรเลือกเวลาที่ลงวิดีโอเป็นเวลาเดียวกัน เพราะการเลือกช่วงเวลาที่ลงนั้น มีผลให้คนเห็นคลิป 

การคาดการณ์ตลาดในปี 2568 

การตลาดในปี 2568 จะขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญในระดับโลกและท้องถิ่น เช่น สภาพเศรษฐกิจ เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ นโยบายของรัฐบาล และพฤติกรรมผู้บริโภค โดยมีประเด็นหลักที่น่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดในหลายอุตสาหกรรม ดังนี้

1. เทคโนโลยีและนวัตกรรม

• AI และ Automation : ระบบ AI และหุ่นยนต์จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในธุรกิจ เช่น การผลิต การดูแลสุขภาพ และบริการลูกค้า
• Metaverse และ AR/VR: การลงทุนในเทคโนโลยีโลกเสมือนจะเติบโต โดยเฉพาะในภาคเกม อสังหาริมทรัพย์ การศึกษา และอีคอมเมิร์ซ
• 5G และ IoT : การพัฒนาเครือข่าย 5G จะสนับสนุนการเติบโตของอุปกรณ์ IoT ในภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน

2. เศรษฐกิจและการบริโภค

• เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) : ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสินค้าที่ยั่งยืน และบริษัทต่าง ๆ จะมุ่งสู่ Net-Zero Carbon
• การบริโภคแบบดิจิทัล : อีคอมเมิร์ซและบริการดิจิทัล เช่น การส่งอาหาร และ Subscription services จะยังเติบโต
• กลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้สูงวัย : การตลาดจะเน้นตอบสนองต่อ Gen Z และ Baby Boomers ที่มีกำลังซื้อสูงในบางพื้นที่

3. การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม

• ภาคการเงิน : การเติบโตของ DeFi (Decentralized Finance) และสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น สกุลเงินคริปโต และ NFT
• ภาคการผลิต : เทคโนโลยี Smart Factory และพลังงานสะอาดจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงการผลิต
• สุขภาพและชีววิทยาศาสตร์ : การพัฒนายาและวัคซีนใหม่ ๆ รวมถึงเทคโนโลยีการแพทย์ส่วนบุคคล (Personalized Medicine)

4. ความท้าทายและโอกาส

• ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ : ความขัดแย้งระหว่างประเทศและการปรับตัวของซัพพลายเชน
• กฎหมายและนโยบาย : กฎระเบียบเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและเทคโนโลยีจะมีผลกระทบต่อตลาด 

ตลาดในปี 2568 คาดว่าจะเน้นที่ความยั่งยืน เทคโนโลยี และการตอบสนองต่อผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ การเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับธุรกิจในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก

Common Ground

LINE TODAY